ที่พักแนะนำในภูเก็ต

-


ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ

จุดชมวิว 3 อ่าว หรือ จุดชมวิวกะรน ภูเก็ต

จุดชมวิว 3 หาด หรือ จุดชมวิว 3 อ่าว จากหาดในหานไปหาดกะตะน้อยตามเส้นทางถนนรอบเกาะ จุดชมวิวจะอยู่ระหว่าง 2 หาดนี้


จากจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งอ่าวถึง 3 อ่าว คือ อ่าวกะตะน้อยซึ่งอยู่ใกล้สุด อ่าวกะตะอยู่ตรงกลาง และอ่าวกะรนอยู่ไกลที่สุดออกไป ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก ถ้าลองจินตนาการดีๆ อ่าวนี้ดูคล้ายๆ เลข 3 เหมือนกันนะครับ หรือว่าอันนี้จะเป็นที่มาของชื่อ จุดชมวิว 3 อ่าว

เรายังสามารถมองเห็นองค์พระใหญ่ หรือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด พระพักตร์หันไปทางอ่าวฉลอง


และทุกครั้งที่ไปเที่ยวที่จุดชมวิวสามอ่าว จะไม่พลาดที่จะนั่งชมวิวสวยๆ ไปพร้อมกับการนั่งกินมะพร้าวเผา ซึ่งมีขายอยู่ตรงร้านค้าข้างๆ จุดชมวิว มันฟินน์มากๆ เลยครับ



บริเวณจุดชมวิว 3 อ่าว มีที่จุดรถอยู่ตรงด้านหน้านะครับ สะดวกสำหรับคนที่นำรถขึ้นมา




แผนที่ จุดชมวิว 3 อ่าว
พิกัด GPS 7.797292,98.302381

เกาะแก้วพิสดาร ชมความงามของหาดทรายและรอยพระบาทจำลอง

เกาะแก้วพิสดาร มีหาดทรายและธรรมชาติใต้น้ำสวยงามมาก บนเกาะมีรอยพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่ด้วย

เกาะแก้วพิสดารนั้นเป็นเกาะที่อยู่ห่างจากแหลมพรหมเทพไปทางตอนใต้ เพียงแค่ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น อยู่ที่พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และเป็นเกาะที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ

จากแหลมพรหมเทพ เกาะแก้วพิสดารจะเยื้องไปทางด้านซ้ายมือ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน



เกาะแก้วจะมีชายหาดที่สวยงามมากๆ

 
เทศบาลราไวย์จึงมีแนวคิดที่จะส่งเสริมเกาะแก้วพิสดาร และเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของตำบลราไวย์ต่อไป โดยส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ และสักการะรอยพระพุทธบาท รอยที่ 5 ซึ่งประดิษฐานอยู่บนก้อนหินริมทะเลเกาะแก้วพิสดารจำนวน 2 รอย ถ้าช่วงที่น้ำลงนั้นจะมองเห็นชัดเจน
   

รอยพระพุทธบาทบนเกาะแก้วพิสดาร
ขอบคุณภาพจากเว็บ palungjit.com


ปัจจุบันนี้ความเป็นธรรมชาติของเกาะแก้วพิสดารยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะริมทะเลซึ่งกำหนดให้เป็นเขตอภัยทานโดยมีสัตว์ทะเลชนิดต่างๆอาศัย อยู่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นหอยน้ำพริก ปูตากซึ่งเป็นปูที่มีสีสันสวยงาม โดยปูและหอยดังกล่าว ถ้าเป็นทะเลที่อื่นจะถูกจับกินเป็นอาหารเกือบหมด แต่ที่เกาะแก้วพิสดารทั้งปูตากและหอยน้ำพริกมีเป็นจำนวนมาก เพราะทางวัดได้กำหนดให้เป็นเขตอภัยทาน

ข้อมูลเพื่อการเดินทางไปเกาะแก้วพิศดาร
เกาะแก้วพิศดาร อยู่ห่างจากหาดราไวย์ ประมาณ 3 กิโลเมตร นั่งเรือจากหาดราไวย์ ประมาณ 30 นาที


รีวิว Sri panwa Phuket ที่พักในฝัน สวรรค์บนแหลมพันวา

<<< Review Sri panwa Phuket>>>

ถ้าจะให้นึกถึงชื่อรีสอร์ทหรูซักแห่งที่ใครหลายๆ คนฝันอยากจะไปพักซักครั้งนึงในชีวิต ผมเชื่อว่าชื่อของ ศรีพันวา ภูเก็ต จะต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน

ศรีพันวา ภูเก็ต รีสอร์ทสุดหรูตั้งอยู่บนแหลมพันวา ทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต

ชื่อศรีพันวา ภูเก็ต เป็นที่รู้จักและขึ้นชื่อว่าเป็นรีสอร์ทหรู ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเหล่าบรรดาเซเลปและดาราชื่อดังของเมืองไทย นิยมวนเวียนกันมาใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดกันอยู่เป็นประจำ ทำให้เราได้เห็นภาพของรีสอร์ทนี้อยู่ตาม ig ของเซเลปเหล่านั้นตลอดเวลา

วิวแรกที่ Sala Reception ซึ่งเป็นล็อบบี้ของทางรีสอร์ท

เรามาเช็คอินน์กันที่นี่ครับ

แค่วิวแรกก็ร้องว้าวๆๆๆ กันแล้วล่ะครับ


บริเวณล็อบบี้


มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลยครับ
มีหลายมุมให้เลือกนั่งพักตอนช่วงเช็คอินน์


ดื่ม Welcome Drink ให้ชื่นใจก่อนเข้าห้องพัก


เดี๋ยวเราไปดูห้องพักกันต่อเลยครับ




ห้องพัก

จากบริเวณล็อบบี้ ทางรีสอร์ทจะให้เราขับรถไปจอดในบริเวณที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้สำหรับคนที่ขับรถมา และจะมีรถบั๊กกี้พาไปส่งที่ห้องพัก ส่วนคนที่ไม่ได้นำรถมาเอง ก็นั่งรถบั๊กกี้จากล็อบบี้ไปที่ห้องพักได้เลยครับ

เส้นทางภายในรีสอร์ท มีต้นไม้เยอะมากครับ ดูร่มรื่นและเขียวขจีไปหมดเลยครับ


แผนที่แสดงตำแหน่งสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในบริเวณรีสอร์ท



กลับมาคุยเรื่องห้องพักกันก่อนที่จะพาไปชมห้องพักจริงๆ นะครับ

ผมเชื่อว่าคนที่ต้องการมาพักที่ศรีพันวา ภูเก็ต จะต้องรู้สึกตื่นเต้นและต้องทำการบ้าน หาข้อมูลต่างๆ นาๆ มากมายเกี่ยวกับห้องพักของที่นี่

ซึ่งผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดีครับ

ดังนั้นเรามาดูพร้อมๆ กันครับว่า ถ้าจะมาพักที่นี่เราควรทราบอะไรบ้างเกี่ยวกับห้องพักที่นี่ สถานที่ที่คุณอยากจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้องพักตั้งแต่เช็คอินน์กระทั่งเช็คเอ้าท์


อันดับแรกเราควรรู้จักห้องพักประเภทต่างๆ ซึ่งหลักๆ ห้องพักที่นี่จะแบ่งเป็น 4 ประเภทดังนี้
  1. Pool Suite 1 ห้องนอน จำนวน 7 ยูนิต ขนาด 90 ตรม.
  2. Pool Villa 1 ห้องนอน จำนวน 24 ยูนิต ขนาด 190-230 ตรม.
  3. Pool Villa 2 ห้องนอน จำนวน 21 ยูนิต ขนาด 300-320 ตรม.
  4. Resident Villa 3-6 ห้องนอน จำนวน 7 ยูนิต ขนาด 800-2,000 ตรม.

และห้องพักแต่ละห้องก็จะแตกต่างกันในเรื่องของราคา วิว และ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก


ห้องพักแบบ Pool Suite

ผมไม่ได้เข้าไปชมบรรยากาศห้องพักแบบ Pool Suite นะครับ เพราะว่าห้องพักมีจำนวนน้อย และ ในวันที่พวกเราเข้าพัก ห้องพักถูกจองเต็มทั้งหมด อย่างไร ผมขออนุญาตินำภาพจากทางเว็บโรงแรมมาให้ชมแทนละกันนะครับ เพื่อให้การรีวิวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น



ห้องพักแบบ Pool Suite จะคล้ายกับห้อง Studio ซึ่งเมื่อเข้าไปด้านในจะมีห้องนอนอย่างเดียว และ มีสระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งมีจาคูซซี่ให้ลงไปแช่ตัวได้สบาย ถ้าจะว่ายน้ำลักษณะออกกำลังกายซะทีเดียวคงไม่ได้ เพราะว่าสระเล็กเกินไป แต่เนื่องจากห้องพักประเภทนี้ตั้งอยู่ใกล้สระว่ายน้ำส่วนกลางของทางรีสอร์ท ผู้เข้าพักจึงสามารถเดินไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำส่วนกลางได้


ปัจจุบันห้องพักประเภท Pool Suite จะมีทั้งหมด 7 ห้อง และ ตั้งอยู่ตรงบริเวณ Baba Pool Club ซึ่งจะเห็นวิวทางฝั่งทิศตะวันออก 





เดี๋ยวเราไปดูห้องพักแบบ Pool Villa กันต่อเลยครับ

ซึ่งพวกเราเข้าพักในห้องพักประเภทนี้ แต่อย่างไรถึงแม้จะเป็นห้องพักแบบ Pool Villa แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ เรื่องของวิวครับ ห้องพักแต่ละห้องจะมีวิวที่สวยแตกต่างกันไป

แต่ห้องพักที่มีวิวสวยขั้นเทพ และ ขึ้นชื่อมากๆ ของทางศรีพันวา คือ ห้องพักหมายเลข 17 และ LV11 นะครับ

ครั้งนี้พวกเราพัก 2 คืน ซึ่งคืนแรกพวกเราพักที่ห้องเบอร์ 9 เพราะห้องเบอร์ 17 ไม่ว่าง แต่คืนที่สองเราขอย้ายไปนอนอีกห้องนึง ที่ขึ้นชื่อว่าวิวเทพเช่นกันคือห้องพักหมายเลข LV11




ห้องแบบ 1 ห้องนอน Pool Villa
ห้องที่พวกเราพักคืนแรกชื่อห้อง Needle Fish ซึ่งเป็นห้องหมายเลข 9
เนื้องจากเป็นห้องพักแบบ Villa ทุกห้องจึงมีประตูทางเข้าส่วนตัว

เมื่อเดินพ้นประตูเข้ามา ภาพแรกที่เห็นจะประมาณนี้ครับ

มีศาลาอยู่แยกจากตัวอาคารหลัก ซึ่งเป็นห้องนอนและห้องนั่งเล่น



อุตส่าห์เลือกเข้าพักช่วงเดือนพฤศจิกายนแล้วนะเนี่ย ยังหนีฝนไม่พ้นเลย

มาถึงก็เจอฝนตกซะงั้น


วิวจากศาลามองกลับไปที่ห้องพัก




เดินเข้ามาชมด้านในกันต่อเลยดีกว่าครับ

เมื่อเดินเข้ามาจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นก่อน

ซึ่งภายในห้องนั่งเล่นจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง และมีโซฟาสำหรับนั่งๆ นอนๆ เอกเขนกได้อย่างสบาย




ภายในห้องนั่งเล่นจะมี ipod พร้อมลำโพง bose ให้ครับ

สำหรับในเครื่อง ipod จะมีเพลงใส่ไว้ให้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครมี ipod และมีเพลงโปรดของตัวเองอยู่แล้วก็สามารถนำไปใช้ได้ครับ เอาไปฟังกับลำโพง bose รับรองได้ว่าเพลงนั้นจะยิ่งเพราะขึ้นอีกเยอะเลยล่ะครับ




ถัดจากห้องนั่งเล่น เดินเข้ามาดูวิวจากห้องนอนกันก่อนเลยดีกว่าครับ
เนื่องจากผนังห้องนอนใช้เป็นกระจกใสทั้งหมด ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้แบบพาโนรามาเลย


สระว่ายน้ำใหญ่ใช้ได้เลยครับ เราสามารถเดินลงสระได้จากทางส่วนของห้องนั่งเล่น หรือ จะเดินลงจากห้องนอนก็ยังได้เลยครับ


สิ่งที่ชอบเกี่ยวกับสระว่ายน้ำที่นี่คือ มีขนาดใหญ่ และ เป็นสระระบบน้ำเกลือ ซึ่งทำให้เล่นได้นานไม่รู้สึกคัน


เดินเข้าไปแวะดูในส่วนห้องครัวกันหน่อย

ที่นี่ห้องครัวจัดเต็มครับ

เรียกว่าใช้ชีวิตอยู่ในนี้ได้ไม่มีอดเลยครับ มีทั้งตู้ไมโครเวฟ ตู้เย็น กาต้มน้ำ อ่างล้างจาน

ขนมขบเคี้ยวทุกอย่าง เราสามารถทานได้หมดครับ ฟรี.. ชอบใช่มั๊ยล่ะครับแบบนี้


รวมถึงเครื่องดื่มทุกอย่างที่อยู่ในตู้เย็นก็ฟรีทั้งหมดครับ

เค้าเติมให้ใหม่ทุกวัน


ห้องน้ำกว้างดีครับ ตกแต่งได้สวย

มีอ่างล้างหน้าให้ 2 อัน อยู่คนละฝั่งกัน เรียกว่าล้างหน้ากันไป มองหน้ากันไปผ่านกระจก โรแมนติกไปอีกแบบนะครับ





สำหรับในช่วงกลางคืน หากเราต้องการความเป็นส่วนตัว ก็ดึงผ้าม่านแบบทึบลงมาปิดได้ครับ

เท่านี้ก็นอนหลับฝันดีแล้วล่ะครับ


เดี๋ยวไปดูอีกห้องนึงกันต่อเลยครับ




ห้อง 1 ห้องนอน Pool Villa หมายเลข LV11
สำหรับคืนที่ 2 ของการเข้าพักที่นี่ เราย้ายมานอนอีกห้องนึงตามที่บอกไว้ตอนแรกนะครับ

เพราะว่าห้องนี้เป็นอีกห้องที่วิวสวยมากๆ

อ้อ ลืมเล่าให้ฟังไปนิดนึงครับ

ห้องพักของที่นี่เค้าจะมีแบ่งเป็นเฟสน่ะครับ สำหรับห้องพักในเฟสแรกจะมีลักษณะเหมือนกับห้องพักที่เราพักในคืนแรกน่ะครับ 

ซึ่งห้องที่เป็นห้อง One Bedroom Pool Villa จะมี 2 ลักษณะคือ เป็น One Bedroom Pool Villa เฉยๆ กับ One Bedroom Pool Villa แบบ LV หรือ Luxury Villa ซึ่งห้องพักในแบบแรกจะเป็นการก่อสร้างตั้งแต่เริ่มเปิดรีสอร์ทแต่ห้องพักในแบบที่สองที่เป็น LV จะมาสร้างเพิ่มทีหลัง ทำให้ห้องพักในแบบ LV จะค่อนข้างใหม่กว่า

ขออธิบายเพิ่มเติมอีกนิดเกี่ยวกับห้องพักทั้ง 2 แบบ ดังนี้ครับ
ห้องพักในเฟสแรกทั้งหมดเรียกว่า Pool Villa
ห้องพักในเฟสที่สองทั้งหมดเรียกว่า Luxury Pool Villa หรือ LV
สำหรับเฟสที่สองเค้ามีแยกย่อยเป็น Type A และ Type B
ซึ่งต่างกันตรงที่ห้อง Pool Villa แบบ Type A จะมีส่วนของห้องนั่งเล่นแยกออกมา เหมือนกับห้องที่พวกเราพักในคืนที่สอง

แต่ห้องพักแบบ Pool Villa Type B จะเป็นห้องพักที่มีส่วนของห้องนั่งเล่นอยู่ในตัวเป็นหลังเดียวกับห้องนอน และ มีศาลานั่งเล่นแยกออกมาตรงบริเวณสระว่ายน้ำ ซึ่งจะเป็นแบบเดียวกับ ห้อง Pool Villa ในเฟสแรกเลยครับ



ห้องพัก LV 11 จะไม่ได้มีศาลาแยกออกมาแบบห้องพักในแบบแรก

แต่จะแยกส่วนของห้องนอน และ ห้องนั่งเล่น ออกจากกันเลย




บริเวณนี้จะเป็นส่วนที่เรียกว่า Sun Deck ซึ่งอยู่ตรงหน้าห้องนั่งเล่น

เข้ามาภายในห้องนั่งเล่นกันครับ

กว้างเลยทีเดียว


วิวจากห้องนั่งเล่น



ภายในห้องนั่งเล่น ไม่ได้มีโซฟา Day bed ใหญ่ๆ นะครับ แต่เหมือนเป็นเตียงนอนเลย นี่ถ้ามากันมากกว่า 2 คน สามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนเตียงเสริมได้เลยครับ

ภายในห้องนั่งเล่นจะมีห้องครัว และ ห้องน้ำอีกห้องนึง

สำหรับของกินและเครื่องดื่มภายในห้องพัก เราสามารถทานได้ทั้งหมดครับ ทุกอย่างรวมอยู่ในค่าห้องพักทั้งหมดแล้ว


เข้ามาในส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ กว้างขวางใช้ได้เลยล่ะครับ



ห้องน้ำมีอ่างจาคูซซี่ ตีฟองแล้วนอนแช่สบายเลยล่ะครับ

มาดูบรรยากาศยามค่ำคืนกันบ้างดีกว่าครับ


เนื่องจากผนังห้องนอนเป็นกระจกทั้งหมดเช่นกัน ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้อย่างชัดเจน


ในช่วงกลางคืนมักจะมีเลยมาจอดอยู่บริเวณด้านหน้าห้องพัก ดูแล้วสวยงาม คล้ายภาพวาดเลยครับ

นอนหลับฝันดีกันไปอีกค่ำคืนนึงเลยล่ะครับ


นั่นคือทั้งสองห้องที่เราพักกันที่นี่

แต่เดี๋ยวเราลองไปดูห้องพักห้องอื่นกันบ้างดีกว่าครับ

ใจจริงอยากไปดูห้องพักหมายเลข 17 ซึ่งเป็นห้องที่สวยมากๆ ใครมาพักที่นี่จะจ้องไปที่ห้องนี้กันเป็นอันดับต้นๆ แต่ผมแนะนำว่าถ้าไม่ทันก็ไม่ต้องถึงกับเสียอกเสียใจมากมายนะครับ ห้องอื่นๆ ก็สวยเหมือนกันครับ เพียงแต่ห้องนั้นเป็นห้องที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์รีสอร์ท และ มีจุดเด่นคือต้นไม้ที่โผล่ขึ้นมาตรงบริเวณริมสระ

และเพื่อไม่ให้เสียรสชาติในการเสพข้อมูลในรีวิวนี้ ผมขอหยิบภาพจากในเว็บศรีพันวาของรีสอร์ทหลังนี้มาให้ชมเลยละกันนะครับ
อันนี้เป็นภาพของห้องเบอร์ 17 จากเว็บของศรีพันวานะครับ


ประเภทห้องพัก หากดูจากในเว็บของศรีพันวา 
เค้าจะเรียกห้องพัก One Bedroom Pool Villa แบบใหม่ว่า Type A
และ เรียก One Bedroom Pool Villa แบบแรกว่า Type B




หลังจากเข้าพักครบทั้ง 2 แบบแล้ว คือ One Bedroom Pool Villa Type A กับ Type B


พวกเราก็ขอเข้าไปดูห้องพักแบบ Two Bedroom Pool Villa ซึ่งคือ LV Type B กันบ้าง

ซึ่งห้องพักห้องนี้เป็นห้องหมายเลข LV 19 มีชื่อห้องว่า Egret
ห้องนี้มีข้อดีคือ อยู่ใกล้กับ Baba Nest สามารถเดินไปที่ Baba Nest ได้เลยครับ


ลักษณะของห้องนี้จะเหมือนกับห้องที่พวกเราพักในคืนแรก คือส่วนของห้องนอนกับห้องนั่งเล่นอยู่รวมกัน และ แยกศาลาออกมา

ซึ่งห้องนี้วิวจากห้องนอนอาจจะไม่ได้ดูเป็น Ocean ทั้งหมด เพราะว่าไปติดตรงส่วนของแหลมที่ยื่นออกไป





แต่ถ้านั่งเล่นตรงศาลา ก็สามารถเห็นวิวได้สวยงามเช่นกัน


เข้ามาดูด้านใน ทุกอย่างถูกจัดไว้เหมือนกับห้อง One Bedroom Pool Villa ที่เรานอนในคืนแรก

สิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างมีเหมือนกัน


เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่นก่อน






หลังจากนั้นจะเป็นส่วนของห้องนอน




วิวจากเตียงนอน ทางฝั่งซ้ายติดแหลม แต่ทางฝั่งขวา เป็นวิวโอเชี่ยน



เข้าไปชมภายในห้องน้ำกันอีกซักหน่อย


ลืมบอกไปครับ ห้องพักประเภทนี้จะมี ห้องซาวน่าให้ด้วยนะครับ เราสามารถปรับอุณหภูมิ ความร้อนได้เอง


อ่างอาบน้ำ Outdoor จะเป็นแบบจาคูซซี่นะครับ นอนอาบน้ำชมวิวไปด้วย สวยสุดๆ เลย




มี ipod และ ลำโพง bose ให้เช่นกัน



ในครัวมีอุปกรณ์ให้เหมือนกันทุกอย่างครับ



แต่ห้องพักประเภทนี้ซึ่งเป็นแบบ Two Bedroom Pool Villa เค้าจะมีทางเดินลงไปด้านล่าง เพื่อไปที่ห้องนอนอีกห้องนึงครับ ซึ่งห้องนอนด้านล่าง จะเป็นห้องนอน ที่ไม่ได้เห็นวิวสวยๆ เหมือนกับห้องที่อยู่ชั้นบน

ดังนั้นคนที่พักที่ห้องประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตกันที่ห้องชั้นบน จะสังสรรค์ปาร์ตี้หรือมีกิจกรรมอะไรก็จะขึ้นมาอยู่ที่ชั้นบนกัน แต่ถึงเวลานอนก็แยกย้ายกันไป เพราะห้องนอนด้านล่างคือออกแบบไว้เพื่อนอนอย่างเดียวเลยครับ ไม่ได้เน้นเรื่องของวิวสวยๆ เหมือนห้องที่อยู่ด้านล่าง


สำหรับห้องพักประเภท Family ที่เป็น 3 ห้องนอนขึ้นไป รอบนี้ ผมไม่ได้ไปดูเลยนะครับ ไว้โอกาสหน้า ถ้าได้ไปที่นี่อีกจะเก็บภาพและบรรยากาศมารีวิวให้อ่านกันอีกทีนะครับ






อาหารเช้า และ ห้องอาหารต่างๆ ภายในรีสอร์ท

ห้องอาหารของศรีพันวามีเยอะมากครับ แต่หลักๆ ที่ลูกค้านิยมไปนั่งกันมากที่สุดก็มีที่ 
Baba Pool Club และ Baba Nest

ดังนั้นรีวิวรอบนี้ผมขอนำเสนอห้องอาหารสองประเภทนี้ไว้ให้ชมกันแค่นี้ละกันนะครับ


ในส่วนของอาหารเช้าปกติเราจะสั่งไปทานในห้องพักเหมือนกับอาหารมื้ออื่นๆ ก็ได้นะครับในกรณีต้องการความเป็นส่วนตัว หรือมาทานที่ห้องอาหารตรง Baba Pool Club ครับ เพราะว่าอาหารเช้า เค้ามีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และ รสชาติดีใช้ได้เลยครับ 

ซึ่งอาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภทพื้นเมือง

ผมเดินไปถ่ายภาพย้อนกลับมา จะเห็นส่วนของ Baba Pool Club ทั้งหมด

หากมองจากส่วนของห้องอาหารออกไปจะเห็นทะเลทางฝั่งตะวันออกของรีสอร์ท
ซึ่งเป็นฝั่งที่เห็นวิวแบบเดียวกับห้องพักแบบ Pool Suite น่ะคัรบ

เพราะว่าห้องพักแบบ Pool Suite จะอยู่ใต้ล่างที่นั่งทานอาหารของ Baba Pool Club อีกทีนึงครับ

ถ้ามองจากภาพบนนี้ออกไปที่เห็นคนยืนกันตรงนั้น นั่นคือที่นั่งทานอาหารของ Baba Pool Club และ หากเดินบันไดลงไป ใต้ที่นั่งนั้น จะเป็นห้องพัก Pool Suite ครับ พอจะนึกภาพออกแล้วนะครับ ว่าถ้าเราพักแบบ Pool Suite เราจะอยู่ในพื้นที่เดียวกับ Baba Pool Club เลยล่ะครับ ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมของลูกค้าเกือบทั้งหมดในรีสอร์ทเลย


ว่าแล้วก็มาทานอาหารเช้ากันเลยดีกว่าครับ




ไลน์อาหารไม่ได้อลังกาลมากนัก แต่ก็มีให้เลือกพอสมควรครับ พวกเราพักที่นี่ 2 คืน ก็ยังไม่ได้รู้สึกเบื่อกับอาหารเช้า เพราะว่าสลับทานกันไปในแต่ละวัน



แต่ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นอาหารไทยหรอกครับ เพราะรู้สึกว่าทานแล้วอยู่ท้องที่สุดละ

อย่างที่บอกครับ ที่นี่อาหารเช้าเค้าจะมีเป็นอาหารพื้นเมืองค่อนข้างเยอะ อย่างเช่นขนมจีนภูเก็ต ก็ถือว่าเป็นอาหารอีกประเภทที่คนภูเก็ตนิยมทานกันเป็นอาหารเช้า ซึ่งจะทานกับน้ำยา น้ำซุป แกงปู และ ผักชนิดต่างๆ

มีน้ำซุปไว้ให้ซดด้วยนะครับ


และอันนี้ขอนำเหนอเลยครับ Egg Benedict ของศรีพันวา จะแตกต่างจาก Egg Benedict ของที่อื่นๆ เท่าที่เคยทานมาครับ ความแตกต่างอยู่ตรงซอสที่ราดบนตัวไข่ครับ และถือว่าเป็น Egg Benedict ที่ผมยังยกให้เป็นอันดับหนึ่งในปัจจุบัน



ที่นี่มีชาเย็นให้ด้วย


บรรยากาศห้องอาหารโดยรวมตรง Baba Pool Club





ทานอาหารเสร็จแล้ว ไปนั่งชิลล์ กันที่ส่วนของ Pool Bar กันเลยดีกว่าครับ


ตรงส่วนนี้จะเป็นโซนของอาหารว่างและเครื่องดื่มครับ


คุณสามารถเลือกนั่งทานแบบในร่ม หรือ ออกไปนั่งอาบแดดด้านนอกก็ได้ครับ แล้วแต่ความชอบ

แต่ ที่นั่งแบบที่เป็นหลุมๆ แบบนี้ บางทีอาจจะต้องมีการจองกันนะครับ เพราะว่าลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่จะนิยมออกไปนั่งกันแบบนี้มากกว่า





ว่าแล้วเราก็สั่งอาหารและเครื่องดื่มมานั่งทานกันดีกว่า


เริ่มจากซ้ายไปขวานะครับ
Sri - Trus มีส่วนผสมของ สัปปะรด มะม่วง ใบมิ้น และ มะนาว
Power Monkey มีส่วนผสมของ กล้วย มะพร้าว โยเกิร์ต น้ำผึ้ง และ ซินิม่อน
Lychee Cooler มีส่วนผสมของ ลิ้นจี่ ใบมิ้น และ น้ำมะนาว


เริ่มจากซ้ายไปขวานะครับ
Choccolate Ice Cream
Jusmine Creme Brulee
Green Tea Panna Cotta

อร่อยทุกอย่างครับ แต่ราคาก็จี๊ดใช้ได้เลยครับ


สำหรับบรรยากาศ



วิวจากส่วนของ Pool Bar จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำส่วนกลางของทางรีสอร์ทเลยครับ


เดี๋ยวเรามาต่อกันในส่วนของอาหารค่ำเลยครับ

สำหรับอาหารค่ำพวกเราฝากท้องกันที่ห้องอาหารเดิมครับ ตรง Baba Pool Club


คนที่พักที่นี่ส่วนใหญ่ ก็จะมาทานอาหารค่ำกันที่นี่แหละครับ เพราะว่าสะดวกที่สุด และอาหารก็มีให้เลือกทานหลากหลายกว่า

มื้อค่ำ แทบไม่ได้สั่งอาหารไทยเลย เพราะว่ามื้อเช้าจัดอาหารไทยไปซะเยอะแล้ว

มื้อค่ำขอเป็น อาหารญี่ปุ่นผสมกับอิตาเลี่ยนละกันนะครับ


หรือ หากใครต้องการไปทานอาหารพร้อมชมวิวสวยๆ 

ผมขอนำเหนอ Baba Nest ครับ


สำหรับการขึ้นมานั่งทานอาหารบน Baba Nest เราต้องจองโต๊ะล่วงหน้านะครับ เพราะว่าที่นั่งบนนี้มีจำนวนจำกัดครับ ประมาณ 15 โต๊ะ และ โต๊ะนึงก็นั่งได้ประมาณ 2-4 คน เท่านั้น


อันนี้ให้จองล่วงหน้า ก่อนวันเข้าพักไปเยอะๆ เลยนะครับ



และขอแนะนำว่าให้จองเป็นโต๊ะหัวมุม จะได้บรรยากาศสุดๆ เลยครับ


หรือ หากเราเกิดพลาดไม่สามารถแย่งชิงที่นั่งบน Baba Nest ได้ เราก็มีแผนสำรองในการทานอาหารพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ได้อีกอันคือ ห้องอาหารด้านล่าง Baba Nest ครับ



ในกรณีที่พลาด ที่นั่งที่ Baba nest เต็มในวันที่เราเข้าพัก ผมขอแนะนำว่า ให้ไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกอีกจุดนึงซึ่งอยู่ชั้นล่างถัดลงมาจาก Baba Nest ครับ

ที่นี่เป็นอีกจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยไม่แพ้ Baba Nest เลยครับ

หรือในบางครั้งที่เราจอง Baba Nest ได้แล้ว แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจ เกิดมีฝนที่นี่ก็จะเป็นจุดที่ใช้รองรับลูกค้าที่ผิดหวังจากสภาพอากาศไม่เป็นใจเช่นกันครับ



เราสามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ได้เช่นกันครับ แต่อาจจะไม่ได้บรรยากาศโล่งๆ เหมือนกับที่ Baba Nest ขนาดนั้น







มีอะไรทำบ้างที่ศรีพันวา ภูเก็ต รีสอร์ท



สระว่ายน้ำส่วนกลาง
สำหรับคนที่พักในห้องแบบไม่ใช่ Pool Villa แล้วต้องการว่ายน้ำ ก็สามารถมาใช้บริการที่สระว่ายน้ำส่วนกลาง ซึ่งตั้งอยู่ตรงบริเวณห้องอาหาร




พักผ่อน ว่ายน้ำในบรรยากาศสบายๆ วิวสวยๆ @ สระว่ายน้ำที่ห้องพัก
สำหรับใครที่พักในห้องพักแบบ Pool Villa บางที แทบไม่ต้องออกไปไหนให้ยุ่งยากเลยครับ แค่นั่งๆ นอนๆ พักผ่อน ว่ายน้ำอยู่ที่ห้องพัก เท่านี้ก็มีความสุขสุดๆ แล้วล่ะครับ

สำหรับการจ่ายค่าห้องพักในราคานี้ พยายามใช้ชีวิตอยู่ที่ห้องพักให้เยอะๆ ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วล่ะครับ

สำหรับห้องพักที่เป็น Ocean View แค่นั่งดูวิวแบบนี้ก็มีความสุขสุดๆ แล้วล่ะครับ




Kid's Club
สำหรับพื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ชั้นล่างลงมาจาก Baba Pool Club 
เครื่องเล่นเด็กเล็กจะมีแค่นี้นะครับ

ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องเล่นสำหรับคนโตมากกว่า

เช่นโต๊ะพูล โต๊ะปิงปอง เป็นต้น








ชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ จากมุมสูงแบบพาโนรามา ที่ Baba Nest
และที่ไม่อยากให้พลาดเลยคือการได้ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ บน Baba Nest ครับ

ในกรณีที่เราไม่สามารถจองที่นั่งได้ เราสามารถขอทางรีสอร์ทขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศได้ครับ แต่ขอแนะนำว่าให้ขึ้นไปประมาณเกือบๆ 5 โมงเย็นนะครับ เพราะว่าคนยังไม่เยอะ ทางเจ้าหน้าที่จะอนุญาติให้เราขึ้นไปได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าหลังจากเริ่มมีลูกค้าที่จองโต๊ะไว้ เริ่มขึ้นไปเยอะแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะไม่ค่อยอนุญาติให้ขึ้นไปแล้วล่ะครับ เพราะว่าค่อนข้างวุ่นวายน่ะครับ




สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับการเข้าพักที่ศรีพันวา ภูเก็ต รีสอร์ท
  1. ที่ตั้งของรีสอร์ทอยู่ในจุดที่ดีมาก สามารถมองเห็นวิวท้องทะเลได้อย่างสวยงามจากหลายๆ จุดภายในรีสอร์ท โดยเฉพาะจากห้องพักหลายๆ ห้องที่อยู่ในมุมที่สวยมากๆ
  2. ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งห้องพักประเภทที่สูงขึ้นจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากขึ้นเช่นกัน
  3. สระว่ายน้ำใช้เป็นระบบเกลือทั้งหมด ซึ่งถือว่าดีมาก เพราะว่าเวลาเล่นแล้วไม่ระคายผิว ผิวไม่แห้งและไม่คัน เด็กๆ สามารถลงเล่นน้ำได้
  4. อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลายพอสมควร แต่ที่สำคัญคือรสชาติอร่อยมาก โดยเฉพาะ Egg Benedict ที่มีซอสราดในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร ต่างจากที่อื่นๆ ที่เคยทานมา
  5. พนักงานบริการดียิ้มแย้ม และ ทักทายตลอด
  6. วิวจากห้องพักส่วนใหญ่สวยมาก เวลาที่อยู่ห้องพักแล้วรู้สึกมีความสุขไม่อยากออกไปไหน
  7. เครื่องเล่นของเด็กเล็กมีให้เล่นน้อยไปหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะถ้าใช้เวลาอยู่ใน Kid's Club นานไป ก็จะพลาดการได้เที่ยวชมความสวยงามส่วนอื่นๆ ของรีสอร์ท
  8. ราคาอาหารและเครื่องดื่มค่อนข้างสูง แต่ถ้าใครคิดว่าจะมานอนที่นี่เรื่องราคาคงทำใจกันมาแล้วนะครับ







เช็คราคา และ การจองห้องพัก

ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น 10,944 - 150,399 บาท
หมายเหตุ ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับช่วงวันและเวลาเข้าพัก

เช็คห้องว่างและราคาที่นี่









แผนที่ ศรีพันวา ภูเก็ต รีสอร์ท
พิกัด GPS 7.8024531,98.4085902

คลิก Like เพื่อติดตามข้อมูลท่องเที่ยวจากพวกเราได้ที่นี่

บทความที่ได้รับความนิยม