ที่พักแนะนำในภูเก็ต

-


ชอบเรื่องนี้ช่วยกด Like กด Share ให้ด้วยนะครับ

รีวิว อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ที่พักสุดหรูบนแหลมพันวาสำหรับผู้รักสุขภาพ

<< Review Amatara Resort and Wellness Phuket >>


อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ที่พักหรูหราสไตล์ชิโนโปรตุกีสผสมผสานกับรูปแบบของไทยโคโลเนียลร่วมสมัย ตั้งอยู่บนแหลมพันวา ซึ่งเป็นจุดชมวิวท้องทะเลอันดามันที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะภูเก็ต

รีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทที่มุ่งเน้นการบริการสำหรับผู้ที่มีความใส่ใจในเรื่องของสุขภาพเป็นหลัก ไม่ใช่แค่เพื่อการพักผ่อนทั่วไปเท่านั้น สำหรับการบริการต่างๆ เหล่านั้นมีอะไรบ้างเดี๋ยวผมจะพูดถึงอีกทีตอนท้ายของรีวิวละกันนะครับ



อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นรีสอร์ทที่มีความเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามของแหลมพันวา ผู้เข้าพักทุกคนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ท้องทะเลที่งดงามได้จากระเบียงด้านหลังของห้องพักทุกห้อง รวมถึงการบริการระดับเวิลด์คลาส ทำให้ที่นี่เหมาะมากสำหรับการพักผ่อนแบบหลีกหนีความวุ่นวายในวันหยุด และด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส กลายเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าเซเลปชั้นนำของฮอลลีวูดอย่าง ลีโอนาโด้ ดิ คาปริโอ้ , อลิสเบธ เทเลอร์ และ เพียร์ซ บรอสแนน


มาติดตามรีวิวความประทับใจของพวกเราจาก การเข้าพักที่ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส กันเลยดีกว่าครับ


สำหรับใครที่ขับรถมาเอง ให้ขับมาที่ด้านหน้าของรีสอร์ท ตรงบริเวณล็อบบี้เลยครับ หลังจากที่นำกระเป๋าลงเรียบร้อยแล้ว ทางรีสอร์ท จะมีบริการนำรถไปจอดให้ เพราะว่าที่จอดรถจะอยู่ห่างจากบริเวณล็อบบี้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งตอนที่เราจะใช้รถ ก็แจ้งเจ้าหน้าที่เค้าจะไปนำรถมาให้ หรือ เราสามารถนั่งรถบั๊กกี้ไปที่รถก็ได้เช่นกันครับ


บริเวณล็อบบี้


ทันทีที่นั่งลงตรงบริเวณล็อบบี้ ก็มี Welcome Drinks พร้อมผ้าเย็น และ มีพวงมาลัยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมสดชื่น มาเสิร์ฟให้ทันที พร้อมรอยยิ้ม และ คำทักทายจากเจ้าหน้าที่ต้อนรับ



ขั้นตอนการเช็คอินน์ที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน

ความประทับใจอีกอย่างคือ เจ้าหน้าที่ต้อนรับใช้เวลาในการอธิบายเกี่ยวกับแผนผังของรีสอร์ท ให้ฟังอย่างละเอียด พร้อมข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับพวกเรา เช่น สิทธิพิเศษต่างๆ เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่เข้าพักในห้องพักแบบ Pool Villa ซึ่งทำให้เราไม่พลาดใช้สิทธิพิเศษเหล่านั้น


อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ได้รับรางวัล World Luxury Hotel Awards Winner 2014




สำหรับผู้เข้าพัก ทางรีสอร์ทจะมีบริการเพิ่มเติมให้อีกอย่างคือ  iPad ที่สามารถท่องอินเตอร์เน็ตได้ทันที รวมถึงโปรแกรมต่างๆ บนหน้าจอ พร้อมใช้งาน หากต้องการใช้บริการต่างๆ ของทางรีสอร์ท เช่น เมนูอาหาร แผนผังรีสอร์ท ข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ของรีสอร์ท ซึ่งถือว่าสะดวกมากๆ เลยครับ





หลังจากผ่านขั้นตอนเช็คอินน์ นำกระเป๋าไปเก็บเรียบร้อย
พวกเราก็ขออนุญาติเดินสำรวจห้องพักในแบบต่างๆ กันต่อเลยครับ


ห้องพัก

ห้องพักของ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส มีให้บริการทั้งหมดรวม 105 ห้อง โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้
  1. Premier Sea View 24 ห้อง
  2. Pavilion & Ocean Pavilion 22 หลัง
  3. Sea View Cape & Ocean View Cape 24 ห้อง
  4. Sea View & Ocean Pool Villa 35 หลัง

สำหรับห้องพักแต่ละประเภท จะมีแบ่งย่อยในส่วนของวิวทิวทัศน์จากห้องพัก คือ 
ห้องพักที่เป็นทิวทัศน์แบบ Sea View และ แบบ Ocean View นะครับ



ตัวอาคารของห้องพักแบบ Sea View Cape และ Ocean View Cape จะอยู่ใกล้กับล็อบบี้ หลังจากเช็คอินน์แล้วสามารถเดินขึ้นห้องพักได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้บริการบั๊กกี้

อาคารทางด้านซ้ายจะเป็นห้องพักแบบ Sea View Cape และ ทางด้านขวาจะเป็นห้องพักแบบ Ocean View Cape



วิวจากด้านบนเมื่อเดินขึ้นบันไดมา
บริเวณตรงกลาง จะเห็นน้ำตกไหลลงไปเป็นขั้นๆ และ มีต้นไม้เขียวขจีอยู่ทั้งสองฟาก มองแล้วทำให้รู้สึกร่มรื่นมากๆ





สำหรับความแตกต่างระหว่าง Sea View กับ Ocean View จะเป็นแบบนี้ครับ


Sea View จะเป็นห้องที่เห็นทะเล ตรงบริเวณช่วงชายหาด ซึ่งบางครั้งตอนน้ำลง ชายหาดจะแห้ง ดูแล้วอาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็จะได้เห็นบรรยากาศของนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำกัน ดูแล้วก็มีชีวิตชีวาไปอีกแบบ


Ocean View จะเป็นวิวท้องทะเลที่ไม่สามารถมองเห็นชายหาด ทำให้ทุกครั้งที่เรามองออกไปที่ทะเล เราจะเห็นท้องฟ้าและน้ำทะเล ตัดกันดูแล้วสวยงามตลอดเวลา โดยเฉพาะในวันที่ฟ้าสดใส



ลักษณะสถาปัตยกรรมของ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส จะเป็นลักษณะผสมผสานระหว่าง ชิโนโปรตุกีส กับ ไทยโคโลเนียลร่วมสมัย แต่ภายในจะใช้เฟอร์นิเจอร์บางอย่างในสไตล์บาหลี ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ทุกอย่างดูลงตัวและเข้ากันเป็นอย่างดี



ห้องพักแบบ  Premier Sea View
ห้องพักในแบบเริ่มต้นของทางรีสอร์ท ที่ดูแล้วหรูหราไม่แพ้ห้องพักในแบบอื่นๆ ด้วยขนาดพื้นที่ห้องพักที่กว้างถึง 70 ตารางเมตร พร้อมเฟอร์นิเจอร์ และ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำตาลออกเป็นสไตล์บาหลี ไม่ว่าจะเป็น เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โซฟา หรือ โต๊ะเขียนหนังสือ


ขนาดห้องพักในแบบเริ่มต้นยังมีอ่างอาบน้ำให้ได้นอนแช่ ดูวิวสวยๆ ผ่านผนังกระจกใสบานใหญ่แล้วล่ะครับ

ส่วนตัวผมชอบผนังห้องของที่นี่ ที่เค้าออกแบบให้เป็นกระจกใส และ ใช้มู่ลี่เพื่อบังสายตาในกรณีที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะเราสามารถเลือกที่จะเปิดมู่ลี่ขึ้นทั้งหมด เพื่อให้สามารถชมวิวได้อย่างเต็มตา หรือ จะปิดทั้งหมดก็ได้ตามความต้องการของเราเอง


ภายในห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้า 2 อัน แยกเป็นสองฝั่ง ไม่ต้องแย่งกัน


ห้องพักทุกห้องของ รีสอร์ท จะมีระเบียงยื่นไปด้านหลัง เพื่อออกไปนั่งชมวิว และ สูดอากาศ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานการออกแบบของทางรีสอร์ท




ห้องพักแบบ Ocean View Cape
ห้องพักแบบ Sea View Cape และ Ocean View Cape จะตั้งอยู่ใกล้กับล็อบบี้ และ สระว่ายน้ำใหญ่ของทางรีสอร์ท ทำให้สะดวกมากๆ ในกรณีที่ต้องการเดินลงมาว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำใหญ่





ห้องพักแบบ Cape จะออกแบบให้เตียงนอนหันออกไปทางระเบียง ทำให้สามารถมองเห็นวิวท้องทะเลได้จากเตียงนอนเลยล่ะครับ





ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ และ ห้องอาบน้ำแบบฝักบัว




    ชุดเซทเครื่องอาบน้ำ เช่น ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดผม ใช้ของ Shanghai Tang

ห้องแต่งตัวอยู่ต่อเนื่องกับห้องน้ำ มีตู้เก็บเสื้อผ้า และ โต๊ะเครื่องแป้ง


ภายในตู้เก็บมินิบาร์ สามารถทานเครื่องดื่มทั้งหมดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
 แต่ยกเว้นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์


วิวจากระเบียงด้านหลังของห้องพักแบบ Ocean View Cape





ห้องพักแบบ Ocean Pavilion
ห้องพักแบบ Ocean Pavilion จะมีลักษณะเป็นหลังๆ ไม่ได้อยู่ในตัวอาคาร มีขนาดความกว้างของพื้นที่ภายในห้องพักรวม 60 ตารางเมตร เพดานออกแบบให้ดูสูงโปร่งทำให้รู้สึกถึงความหรูหรามากยิ่งขึ้น


ผนังรอบด้านจะออกแบบให้เป็นหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ สามารถเปิดเพื่อรับลมได้รอบทิศ หากต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์จากภายนอก หรือ ปิดม่านไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อต้องการความเป็นส่วนตัว เราสามารถเปิดปิดม่านไฟฟ้าด้วยสวิทช์เปิดปิดตรงบริเวณหัวเตียง


ห้องน้ำถูกออกแบบให้อยู่แยกออกไปทางด้านบนของหัวเตียง


ภายในห้องน้ำออกแบบได้กว้างขวางและเป็นสัดส่วนอย่างมาก
สังเกตุว่าที่รีสอร์ทนี้ จะออกแบบให้มีอ่างล้างหน้า 2 อัน


ภายในตู้เสื้อผ้ามีผ้าคลุมอาบน้ำ กระเป๋าใส่ของ ตู้นิรภัย ไฟฉาย


ห้องพักแบบ Sea view Pool Villa
ห้องพักแบบ Sea view Pool Villa ซึ่งผู้เข้าพักในห้องพักประเภทนี้ จะมีสิทธิพิเศษต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมายเลยล่ะครับ เช่น บริการสระว่ายน้ำ และ ทานอาหารเช้าที่ The  club , ทานอาหารว่างช่วงบ่าย Afternoon Tea และ ช่วงค่ำ Evening Cocktails ที่ The Library Lounge , สามารถทานเครื่องดื่มต่างๆ ใน มินิบาร์ได้ทั้งหมดรวมถึงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ , ขนม และ ชา กาแฟที่จัดเตรียมไว้ให้

(ห้องพักแบบ Sea view Pool Villa  วิวจากห้องพักจะเห็นทะเล และ มีต้นไม้ด้วย แต่ถ้าเป็นห้องแบบ Ocean Pool Villa จะหันไปฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งจะเห็นวิวทะเลได้สวยเต็มตากว่า บางห้องก็อาจจะไม่ค่อยมีต้นไม้มาบังวิวทะเล)







ห้องพักแบบ Ocean Pool Villa

ห้องพักแบบ Ocean Pool Villa เป็นห้องพักประเภทสูงสุดของรีสอร์ทแห่งนี้ ซึ่งผู้เข้าพักในห้องพักประเภทนี้ จะมีสิทธิพิเศษต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมายเลยล่ะครับเหมือนกับห้อง Sea view Pool Villa เช่น บริการสระว่ายน้ำ และ ทานอาหารเช้าที่ The  club , ทานอาหารว่างช่วงบ่าย Afternoon Tea และ ช่วงค่ำ Evening Cocktails ที่ The Library Lounge , สามารถทานเครื่องดื่มต่างๆ ใน มินิบาร์ได้ทั้งหมดรวมถึงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ , ขนม และ ชา กาแฟที่จัดเตรียมไว้ให้



ห้องนอนแบบ Pool Villa มีพื้นที่รวมทั้งหมด 150 ตารางเมตร ซึ่งถือว่ากว้างมากๆ
จากเตียงนอนสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ด้วยการเปิดม่านไฟฟ้าขึ้นทั้งหมดด้วยระบบสวิทช์ควบคุมที่หัวเตียงนอน



ผมชอบปุ่มปรับของเครื่องปรับอากาศมากๆ เลยครับ ลักษณะหน้าตาเหมือนเครื่องเล่นiPod ของแอปเปิ้ลเลยล่ะครับ




ว้าวๆๆๆ ... ภายในห้องพักมี ไวน์ ให้ด้วยหนึ่งขวด อันนี้ฟรีเฉพาะผู้เข้าพักแบบ Pool Villa เท่านั้น
ประทับใจสุดๆ เลย



เปิดตู้มินิบาร์ เครื่องดื่มเต็มไปหมดเลยครับ สำหรับผู้เข้าพักแบบ Pool Villa สามารถทานเครื่องดื่มทุกอย่างในตู้เย็นได้ครับ รวมถึงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ด้วย ซึ่งต่างจากห้องพักในแบบอื่นๆ ที่ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งทางรีสอร์ท เค้าจะมาเติมให้เราใหม่ทุกวัน

ยกเว้น ไวน์แดงที่เป็น Welcome drink และ เครื่องดื่มสองขวด ยี่ห้อ Tierra de Luna และ Chalong Bay ที่เราดื่มได้แต่เค้าไม่ได้มีบริการเติมให้นะครับ


นอกจากนั้นยังมีชารสชาติต่างๆ และ กาแฟ พร้อมเครื่องต้มน้ำให้ด้วยนะครับ




เดี๋ยวไปชมห้องน้ำที่หรูหรา แบบ Oversize กันต่อดีกว่าครับ


ทางเดินเชื่อมต่อระหว่างห้องนอนไปยังห้องน้ำ






อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ตรงกลางของห้องน้ำ
เปิดน้ำอุ่นๆ แล้วลงไปนอนแช่ชมวิวสบายสุดๆ




สำหรับครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมนวดผม สบู่ ของห้องพักแบบ Pool Villa จะใช้ยี่ห้อ L'Occitane en Provence ซึ่งจะต่างกับห้องพักประเภทอื่นๆ นะครับ




ในห้องพักแบบ Pool Villa จะมีห้องน้ำเล็กใกล้กับส่วนของห้องนอน ให้อีกหนึ่งห้อง แต่ประตูและผนังห้องน้ำ จะเป็นแบบโปร่ง ดูแล้วเซ็กซี่ดีจริงๆ





บริเวณด้านนอกจะมีพื้นที่สำหรับออกมานอนอาบแดด พร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัว ที่สามารถเปิดจากุซซี่นวดหลังสบายๆ ไปพร้อมกับชมวิวของท้องทะเลอันดามันที่สวยงาม





Key Card สำหรับเปิดประตู ไม่ได้ทำเป็นการ์ดสี่เหลี่ยมทั่วไป แต่ออกแบบให้ดูดี มีชิพด้านใน มีสายคล้องแขวนได้


ในกรณีที่เราไม่ต้องการให้ใครมารบกวน หรือ ไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาดห้องให้เราให้แขวนพู่สีแดงนี้ไว้หน้าประตูห้อง ก็เป็นอันรู้กันว่า Please Do not disturb


บรรยากาศ Ocean Pool Villa ยามค่ำคืน 


ชอบไอเดียของทางรีสอร์ทตรงที่นำของที่ปกติดูแล้วธรรมดา มาทำให้ดูเป็นของตกแต่งที่ดูดี มีค่าขึ้นมา อันนี้เกิดจากไอเดียล้วนๆ เลย



ช่วงค่ำเดินแวะมาที่ล็อบบี้ดูความสวยงามของแสงไฟยามค่ำคืนก่อนเข้านอน



อาหารเช้า และ ห้องอาหารของทางรีสอร์ท

ห้องอาหารภายในรีสอร์ท
  1. The Restaurant ห้องอาหารหลักของทางรีสอร์ท ให้บริการ อาหารเช้า อาหารกลางวัน และ อาหารเย็น เปิดให้บริการ 3 ช่วง ตั้งแต่ 06.30 - 10.30 , เที่ยงวัน - 15.00 น. , 18.30 - 20.30 น.
     
  2. The Grill ให้บริการอาหารทะเล เปิดให้บริการตั้งแต่ 18.00 - 22.30 น.
  3. The Grill Lounge ห้องอาหารที่ตั้งอยู่ด้านบนของห้องอาหาร The Grill ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของท้องทะเล เปิดให้บริการเฉพาะช่วงเย็นตั้งแต่ 17.00 - 23.00 น.
  4. The Library Lounge สามารถมานั่งอ่านหนังสือ และ ดื่มเครื่องดื่ม pre or post-dinner drink หรือทานเบเกอรี่  , เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา  13:00 - 19:00 น.
    - สำหรับผู้เข้าพักแบบ Pool Villa มีบริการสิทธิพิเศษฟรีดังนี้
        Afternoon Tea : 15:00 - 17:00 น.
        Evening Cocktails: 18:00 - 19:00 น.
  5. Pool Terrace หรือ Pool Bar ให้บริการเครื่องดื่มตรงบริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลาง
  6. The Beach Table ห้องอาหารเล็กๆ เปิดให้บริการอยู่ตรงริมชายหาด
  7. The Club ให้บริการอาหารเช้าแบบ A la Carte สำหรับลูกค้าที่เข้าพักในห้องพักแบบ Pool Villa เท่านั้น ซึ่งจะเสิร์ฟอาหารเช้าอย่างเดียว , ในเวลาอื่นๆ ของวัน ลูกค้าแบบ Pool Villa สามารถสั่งอาหารว่าง และ ว่ายน้ำได้ที่ The Club เพราะว่าที่นี่จะมีสระว่ายน้ำให้เป็นส่วนตัวอีกหนึ่งสระ
    เปิดให้บริการ :
    - จันทร์ - ศุกร์
    อาหารเช้า: 6:30 - 10:30 น.
    Afternoon Tea : 15:00 - 17:00 น.
    Evening Cocktails: 18:00 - 19:00 น.

    - เสาร์ , อาทิตย์
    อาหารเช้า: 6:30 - 10:30 น.




เช้านี้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้ากว่าเกือบๆ หกโมงเช้า เพราะอยากลุกขึ้นมาเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า เนื่องจากฝั่งที่นอนเป็นทิศตะวันออก

ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยครับ ถึงแม้ว่าช่วงที่เข้าพักที่นี่จะเป็นช่วงที่มีควันไฟพัดมาจากประเทศอินโดนีเซียหนามาก แต่ก็ยังได้ภาพพระอาทิตย์ในระดับที่ส่วนตัวรู้สึกพอใจ และ รู้สึกคุ้มค่าที่ตื่นมาแต่เช้าขนาดนี้


หลังจากเก็บภาพบริเวณหลังห้องพักแล้ว ก็เดินไปเก็บภาพที่อื่นๆ ภายในรีสอร์ทต่อเลยดีกว่า

เดินมาที่สระว่ายน้ำ ช่วงเช้าๆ นี่ช่างเงียบสงบ


ศาลาไทยสองหลังนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของ อมาธารา รีสอร์ท เลยล่ะครับ
เพราะว่ารูปที่โปรโมทส่วนใหญ่จะได้เห็นศาลาคู่สองหลังนี้
ยิ่งได้ตื่นมาดูในช่วงเช้าผมว่ายิ่งสวยมากกว่าช่วงกลางวันอีกนะครับ



เดินเก็บภาพไปมาซักพักฟ้าเริ่มสว่างซะแล้ว




ได้เวลาอาหารเช้าแล้วล่ะครับ


สำหรับอาหารเช้า มีให้ทานสองที่คือ
1. ที่ห้องอาหาร The Restaurant
2. ที่ห้องอาหาร The Club

ความแตกต่างคือ ลูกค้าที่เข้าพักในห้องพักแบบ Premier, Cape และ Pavilion จะมาทานรวมอาหารเช้ารวมกันที่ ห้องอาหาร The Restaurant แต่ถ้าเป็นลูกค้าที่พักในห้องพักแบบ Pool Villa สามารถเลือกได้ว่าจะทานที่ The Restaurant หรือ ทานที่ The Club

ซึ่งถ้าทานที่ The Club บรรยากาศจะเป็นส่วนตัวมากกว่า และจะมองเห็นวิวทะเล ซึ่งสวยเหมือนภาพวาดเลยล่ะครับ




พวกเราแวะมาเก็บภาพบรรยากาศที่ห้องอาหาร The Restaurant ก่อน







อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกทานหลากหลายดีเหมือนกันครับ



หลังจากมาเก็บภาพบรรยากาศที่ห้องอาหาร The Restaurant แล้ว ก็เรียกบั๊กกี้ ให้ไปส่งที่ห้องอาหาร The Club ต่อเลย เพราะว่าตื่นเต้นอยากเห็นวิวสวยๆ จากห้องอาหาร The Club กันแล้วล่ะครับ



ทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร The Club จะค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะที่นี่มีลูกค้าไม่เยอะเหมือนที่ห้องอาหาร The Restaurant

ภายในห้องนี้เรานั่งทานกันครอบครัวเดียวเลย



มองออกไปเป็นวิวทะเล สวยงามจริงๆ


สำหรับลูกค้าที่ทานอาหารที่ห้องอาหาร The Club จะไม่มีให้เดินไปตักอาหารนะครับ
ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่นำเมนูอาหารมาให้เราได้เลือกทานและสั่งตามชอบ




ผมขอคาเฟอีนเติมให้ร่างกายก่อนเลย เพราะว่าเมื่อเช้าตื่นมาเช้ามากๆ

น้ำตาลมีให้เลือกทั้งแบบน้ำตาลแดงและน้ำตาลขาว





เมนูโปรดของครอบครัว Egg Benedict ไปที่ไหนต้องสั่ง
และ side dish สำหรับเมนูไข่ ก็จะมีให้เลือกหลายอย่าง เราสามารถดูจากเมนูและเลือกสั่งตามชอบได้


รสชาติอร่อยมากๆๆๆๆๆๆ


Laksa ก๋วยเตี๋ยวแกง หรือ ก๋วยเตี๋ยวแขกราดด้วยน้ำแกงกะทิข้นๆ เผ็ดนิดหน่อย เป็นอาหารที่นิยมของมาเลเซีย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย


ทานอยู่โต๊ะเดียวเงียบสงบ เป็นส่วนตัวดีจริงๆ


เหตุผลหลักๆ อีกอย่างที่ชอบทานอาหารในที่เงียบสงบ และเป็นส่วนตัวคือ เราเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็กน่ะครับ อันนี้ คิดว่าหลายๆ ครอบครัวที่มีเด็กเล็กจะเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดีเลยนะครับ

ทั้งเสียงดัง โวยวาย วิ่งเล่นไปทั่ว
ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ เป็นสิ่งที่รบกวนคนอื่นมากๆ



ทานอาหารเสร็จแล้ว ยังไม่อยากกลับห้องพักเลยครับ
ขอมานอนเล่น ชมวิวอยู่ที่นี่กันก่อนดีกว่า
วิวสวยมากจริงๆ ขนาดว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่มีหมอกควันหนานะครับ

เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลตรงส่วนของห้องอาหาร The Club บอกว่า ถ้าเป็นช่วงฟ้าเปิด
ท้องทะเลจะเป็นสีเขียว และ ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเข้ม
ตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ เหมือนกับภาพวาดเลย

The Club เปิดให้บริการอาหารเช้าสำหรับผู้เข้าพักแบบ Pool Villa , อาหารกลางวันแบบเบาๆ รวมถึง Afternoon Tea, มื้อค่ำ และ คอกเทล ซึ่งที่ The Club จะมีสระว่ายน้ำให้ลงเล่นได้ด้วยนะครับ
เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.30 - 20.00 น.




ทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหาร The Restaurant


ท้องหิว ช่วงกลางวัน พวกเราฝากท้องมื้อนี้ที่ห้องอาหาร The Restaurant

ดูกันครับว่าเราสั่งอะไรมาทานกันบ้าง
อาหารแต่ละอย่างถือว่าเป็นเมนูแนะนำของที่นี่เลยครับ


ผัดไทยกุ้งสด


                                แกงปูชะพลู


                              พิซซ่าซีฟู้ด


Fish & Chips

                                 น้ำฟรุ๊ตพันซ์


ห้องอาหาร The Restaurant ให้บริการอาหารไทย และ อาหารยุโรป
เปิดให้บริการ
อาหารเช้า  06.30 - 10.30 น.
อาหารกลางวัน  12.00 - 15.00 น.
อาหารเย็น 18.30 - 22.30 น.




ช่วงบ่ายมาทานอาหารว่างกันที่ ห้องอาหาร The Library Lounge

The Library Lounge เปิดให้บริการเครื่องดื่มและอาหารว่าง สำหรับทานเล่น


สำหรับลูกค้าที่เข้าพักแบบ Pool Villa จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมคือ สามารถทานอาหารว่าง Afternoon Tea และ Evening Cocktails ได้ฟรี


  ขอบอกว่า สโคน อร่อยจริงๆ โดยเฉพาะ clotted cream ซึ่งหาทานไม่ค่อยมีเวลาไปทานสโคนตามร้าน 
  อื่นๆ


ห้องอาหาร The Library Lounge เปิดให้บริการตั้งแต่ บ่ายโมง - สามทุ่ม




มีอะไรให้ทำบ้างที่ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ภูเก็ต

สำหรับกิจกรรมที่ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส มีให้เลือกทำดังนี้ครับ
  1. สระว่ายน้ำ (ที่นี่มีสระว่ายน้ำทั้งหมด 3 สระ คือ 1. สระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่แบบ infinity edge ความยาว 55 เมตร / 2. สระว่ายน้ำสำหรับผู้เข้าพักแบบ Pool Villa ที่ The Club / 3. สระว่ายน้ำเด็ก ที่ Children's Club)
  2. Children's Club
  3. Fitness Center
  4. เดินเล่นชายหาดส่วนตัว
  5. และที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ Amantara Spa



สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ล็อบบี้ เป็นลักษณะ infinity edge มองแล้วเหมือนเชื่อมต่อไปยังท้องทะเล









Children's Club
ตั้งหน้าตั้งตา ไปที่ Children's Club ละครับ



ภายในห้อง Children's Club จะปูด้วยพื้นยางทั้งหมด
พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างกว้าง เด็กๆ วิ่งเล่นกันได้สบาย

ที่ Children's Club มีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กให้ด้วยนะครับ

Children's Club เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00 - 20.00 น.




Amantara Spa

อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ได้มุ่งเน้นเกี่ยวกับการบริการด้านสุขภาพใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้เพื่อให้ที่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงรีสอร์ท ที่ลูกค้ามาเพื่อพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง โดยจะมีบริการแบบโฮลิสติกอย่างครบวงจร การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยมุ่งเน้นบริการที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีของร่างกาย ด้วยโปรแกรมเวลเนสที่จะปรับร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ให้สู่สภาวะสมดุลย์ด้วยวิถีธรรมชาติ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้ศาสตร์ต่างๆ จากตะวันออกและตะวันตก มาออกแบบเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับลูกค้าด้วยบริการด้านบำบัดซึ่งประกอบด้วย คลินิกกายภาพบำบัดดีท็อกซ์ล้างพิษ ทรีตเมนท์สลิมมิ่งกระชับสัดส่วน โซนผ่อนคลายด้วยทรีตเม้นต์หลากหลายรูปแบบ ทั้งสปาทรีตเม้นต์ ทรีตเม้นท์โฮลิสติกและโซนแอคทีฟ ด้วยฟิตเนส โยคะ พิลาทิส มวยไทย เรือคยัก วอเตอร์แอโรบิค นอกจากนี้ยังเน้นให้ลูกค้ามีโภชนาการที่ดีด้วยอาหารสุขภาพ สปาคูซีนรอว์ฟู๊ด คลีนฟู๊ด เครื่องดื่มจู๊สต่างๆ ที่ออกแบบโดยเชฟมือหนึ่งที่ได้รับรางวัลมากมาย









เดินเล่นชายหาด

บริเวณด้านหลังของตัวรีสอร์ท จะมีชายหาดเล็กๆ ซึ่งเป็นหาดส่วนตัวของทางรีสอร์ท เราสามารถเดินลงไปเล่นที่ชายหาดได้ หรือ เรียกบริการรถบั๊กกี้ให้ลงไปส่งก็ได้ครับ





สรุปความคิดเห็นเกี่ยวกับการเข้าพักที่ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ภูเก็ต



  1. ชอบที่ตั้งของรีสอร์ท ซึ่งอยู่บนแหลมพันวา สามารถมองเห็นวิวท้องทะเลได้อย่างสวยงามจากมุมสูง นอกจากนั้นยังมีชายหาดส่วนตัวเล็กๆ สำหรับลูกค้าให้ลงไปเล่นที่ชายหาดได้ ทำให้ไม่สูญเสียความรู้สึกของการพักผ่อนที่เมืองตากอากาศชายทะเลอย่างภูเก็ตไปซะทีเดียว
  2. การบริการดีเยี่ยม ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าสู่ตัวรีสอร์ท รวมถึงในขณะเข้าพัก
  3. การดูแลเรื่องความสะอาด ดีมากๆ ทั้งภายในห้องพัก และ ภายในตัวรีสอร์ท
  4. ห้องพักทุกห้องมีระเบียงทำให้สามารถออกไปชมทิวทัศน์ และ สูดอากาศจากภายนอกห้องพักได้
  5. การออกแบบให้พักทุกห้องให้มีพื้นที่กว้างทำให้รู้สึกไม่อึดอัด แม้ห้องพักระดับเริ่มต้น ก็รู้สึกว่ากว้างขวางน่าพักแล้วล่ะครับ
  6. ประทับใจการออกแบบของตัวรีสอร์ท ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และเหมือนย้อนไปอยู่อีกยุคสมัยนึงในอดีต
  7. อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย และ รสชาติอร่อย
  8. สระว่ายน้ำส่วนกลางแบบ infinity edge และ มีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบว่ายน้ำเพื่อการออกกำลังกายมากๆ



เช็คราคา และ การจองห้องพัก
ราคาเริ่มต้นเฉลี่ย 6,400 - 20,800 บาท
หมายเหตุ ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับช่วงวันเวลาเข้าพัก





ติดต่อ
อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส
84 หมู่ 8 ถ.ศักดิเดช ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 93000
โทร. 076-318-888, 076-200-800
แฟกซ์ 076-318-800

สำนักงานในกรุงเทพฯ 
โทร. 02-653-0555, 02-653-0505
แฟกซ์ 02-653-0123




แผนที่ อมาธารา รีสอร์ท แอนด์ เวลเนส ภูเก็ต
พิกัด GPS 7.808466, 98.407302


คลิก Like เพื่อติดตามข้อมูลท่องเที่ยวจากพวกเราได้ที่นี่

บทความที่ได้รับความนิยม