เที่ยวภูเก็ต: มกราคม 2016

ชมย่านเมืองเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส ช่วงค่ำหาของกินถนนคนเดินหลาดใหญ่ ซอยรมณีย์ ถนนถลาง

ตัวเมืองภูเก็ตจะมีย่านที่เรียกว่าย่านเมืองเก่า ซึ่งบริเวณนี้จะมีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่ตัวอาคารห้องแถวที่มีลักษณะการออกแบบในสไตล์ชิโนโปรตุกีส

เนื่องจากในสมัยก่อนภูเก็ตมีความเจริญรุ่งเรืองซึ่งเกิดจากการค้าขายกับเมืองต่างๆ ในแหลมมาลายู ซึ่งมีทั้งชาวตะวันตกและชาวเอเชียที่มาค้าขาย และ ทำเหมืองแร่ดีบุกเป็นจำนวนมาก เช่น เมืองปีนัง สิงคโปร์ มะละกา ไทปิง จึงทำให้วิถีชีวิตความเป็นอยู่เกิดเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเราสามารถเห็นได้จากเรื่องของอาหารการกิน และ ตัวอาคารบ้านเรือนในย่านนี้ได้อย่างชัดเจน

ถนนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านเมืองเก่าหลักๆ จะเป็นถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนเยาวราช

ซึ่งถนนถลางและถนนดีบุกจะมีซอยเชื่อมถึงกันชื่อว่า "ซอยรมณีย์"

เดินชมบรรยากาศของบ้านเรือน บนถนนถลางกันดีกว่าครับ

ตามสองข้างทางของถนนถลางจะมีร้านคาเฟ่สไตล์เก๋ๆ เปิดให้บริการอยู่เป็นจำนวนมาก

เลือกแวะกันไม่ถูกเลยล่ะครับ

แต่เดี๋ยวเราลองเข้าไปชมบรรยากาศด้านในกันซัก 2-3 ร้านละกันครับ

เริ่มกันที่ร้านนี้ Chino@Cafe Gallery

ร้านนี้

ร้านนี้นอกจากบรรยากาศจะดูน่านั่งแล้ว

ยังมีอาหารอร่อยๆ และ ชั้นบนยังจัดเป็นแกลอรี่ด้วยนะครับ

แต่จริงๆ ชั้นล่างก็มีการตกแต่งภาพ และ มีอุปกรณ์กล้องรุ่นเก่าๆ ให้ได้ชมพอหอมปากหอมคออยู่บ้าง

ถ้าใครจะส่งโปสการ์ด หรือ บันทึกแป้นพิมพ์บนสมุดเยี่ยมก็เชิญที่มุมนี้ได้เลยครับ

พลาดไม่ได้คงเป็นขนม เต้าส้อ แสนอร่อยที่มีให้เลือกทั้งแบบไส้เค็มและไส้หวาน

อย่างที่บอกครับว่าบนถนนถลาง ทั้ง 2 ฝั่งจะเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่ ตกแต่งสไตล์เก๋ๆ เยอะไปหมด เดี๋ยวไว้ผมจะมารีวิวแต่ละร้านอีกทีละกันครับ

อาคารเก่าๆ ย่านนี้ บางหลังก็เริ่มถูกดัดแปลงไปบ้างแล้วล่ะครับ

สังเกตุดูได้จากหน้าต่าง ซึ่งบางหลังได้เปลี่ยนไปใช้หน้าต่างสี่เหลี่ยมและใช้วัสดุในแบบปัจจุบัน

ทำให้บางทีมองดูแล้วก็ขัดๆ ไปบ้างนะครับ

เดินเข้ามาจิบกาแฟรสชาติเข้มข้นอีกร้านละกันครับ

ชื่อว่าร้าน ไต่ตง คาเฟ่

ด้านในร้านจะตกแต่งอย่างมีสไตล์ครับ เค้าทำเป็นรถโพถ้อง ซึ่งเป็นรถสองแถวที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองภูเก็ต เอามาใส่ในร้านกันเลย

ดูเมนูซะหน่อย

เนื่องจากท้องอิ่มกันมาพอสมควรแล้ว ก็เลยขอสั่งกาแฟ กับมะพร้าวมานั่งดื่มเล่นๆ

ร้านโกปี้เตี่ยม

มีศาลเจ้าให้เข้าไปกราบไหว้กันด้วยครับ

นอกจากร้านคาเฟ่เก๋ๆ แล้วย่านนี้ยังเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของเมืองภูเก็ตอีกด้วยนะครับ

ดังนั้นจึงมีทั้งโรงแรม ที่พัก เกสต์เฮ้าส์ ร้านขายของจิปาถะ ร้านยา ร้านเสื้อผ้า ฯลฯ

เดินเที่ยวหลาดใหญ่

ในช่วงค่ำของคืนวันอาทิตย์ ถนนถลางทั้งเส้นจะถูกปิดไม่ให้รถสัญจรไปมา เพราะว่าบนถนนเส้นนี้จะทำเป็นถนนคนเดิน "หลาดใหญ่" ซึ่งถือว่าเป็นถนนคนเดินที่คึกคักมากๆ เลยล่ะครับ

ของกินเยอะมากๆๆๆ

ใครที่หาของกินพื้นเมืองภูเก็ตผมแนะนำให้มาเที่ยวภูเก็ตให้ตรงกับวันอาทิตย์ แล้วมาเดินเล่นที่ถนนเส้นนี้ รับรองได้เลยครับไม่ผิดหวังแน่นอน

เดินชมของกินกันเลยดีกว่าครับ

การจัดร้านที่นี่เค้าจะ วางตำแหน่งของร้านค้าไว้ตรงกลาง แล้วนักท่องเที่ยว หรือลูกค้าจะเดินริมๆ สองฝั่ง ต่างจากที่อื่นๆ ที่เค้าจะวางตำแหน่งร้านค้าไว้สองฝั่งถนน แล้วให้คนเดินตรงกลาง ซึ่งแบบที่สองก็ถือว่าดีไปอย่างนะครับ เดินทีเดียวมองซ้ายขวาได้เลย อยากเข้าร้านไหนก็เดินโฉบซ้ายโฉบขวาเข้าไปเลย

ตอนกลางคืน ตามอาคารสไตล์ชิโนโปรตุกีสเหล่านี้เค้าจะเปิดไฟสีสวยๆ สลับไปมา ดูแล้วสวยมากครับ

ร้านคาเฟ่ก็คึกคักไปด้วยผู้คน

อาหารพื้นเมืองภูเก็ตมีให้เลือกทานแทบทุกอย่างเลยล่ะครับ

ที่ชอบมากๆ อีกอย่างก็คือมีดนตรีสดให้ฟังด้วยนะครับ

บนถนนทั้งเส้นเค้าจะมีดนตรีสดเล่นให้ฟังทั้งหมด 3 จุด้วยกัน คือ ช่วงปลายๆ ทั้ง 2 ฝั่ง และ ช่วงตรงกลาง ซึ่งเสียงจะไม่ตีกันเลยครับ

ประเภทของเพลงก็ต่างกันไปครับ มีทั้งไทยลูกกรุงแบบโบราณสำหรับคนรุ่นเก่า ไทยปัจจุบันทันสมัยสำหรับคนรุ่นใหม่ และ เพลงฝรั่งย้อนยุค

มาหยุดตรงนี้พักใหญ่ ชมฝีมือการคว้านมะพร้าวของพี่คนนี้ แกคว้านได้สุดยอดจริงๆ ครับ มะพร้าวทั้งลูก แกสามารถเอาเปลือกออกโดยที่เนื้อมะพร้าวยังอยู่ในสภาพปกติ

ร้านนี้ต้องลองเลยครับเยี่ยมจริงๆ

อันนี้แกคว้านไปครึ่งลูกละ สังเกตุดูครับเนื้อมะพร้าวสีขาวๆ ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์เลย

เดินมาซักพักถึงซอยรมณีย์ ก็หยุดพักซักหน่อย

ซอยรมณีย์ในสมัยก่อนเป็นซอยแห่งความรื่นรมย์ แต่ปัจจุบันก็เริ่มไม่ค่อยมีอะไรซักเท่าไหร่แล้วล่ะครับ มีก็เพียงแค่ เกสต์เฮ้าส์ และ คาเฟ่ ไม่กี่แห่งที่ยังเปิดให้บริการอยู่